Sign In
ข่าว ก.ล.ต.

ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อการปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการออกตราสารหนี้ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) และระยะเวลาในการนำส่งงบการเงิน



วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566 | ฉบับที่ 132 / 2566


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อการปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการออกตราสารหนี้ของบริษัทที่จดทะเบียนใน LiVEx และระยะเวลาในการนำส่งงบการเงินสำหรับบริษัทที่จดทะเบียนใน LiVEx เพื่อให้การกำกับดูแลผู้ออกตราสารหนี้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น

ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อการปรับปรุงหลักเกณฑ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกและเสนอขายตราสารหนี้ของบริษัทที่จดทะเบียน* ในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) เช่น การกำหนดหลักเกณฑ์การขออนุญาตออกและเสนอขายตราสารหนี้เช่นเดียวกับผู้ออกที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน (non-listed company) เป็นต้น รวมถึงหน้าที่ในการจัดทำและส่งรายงานที่แสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานภายหลังการเสนอขาย เพื่อให้เหมาะสมกับการกำกับดูแลยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้เสนอปรับปรุงระยะเวลาในการนำส่งข้อมูลงบการเงินประจำงวด 6 เดือนแรกของปีบัญชีและงบการเงินประจำรอบปีบัญชีของบริษัทที่จดทะเบียนใน LiVEx โดยให้นำส่งภายใน 3 เดือนนับตั้งแต่วันสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชี เพื่อให้สอดคล้องกับการกำหนดระยะเวลาในการนำส่งรายงานอื่น ๆ ตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวที่เว็บไซต์ ก.ล.ต 
https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=923 

ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail: debt@sec.or.th จนถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2566  






ข่าวในหมวดเดียวกัน

ก.ล.ต. มีแนวคิดปรับปรุงหลักเกณฑ์ “หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง” และวัตถุประสงค์การใช้เงินของผู้ออกตราสารหนี้
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นปรับปรุงหลักเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูล ตามมาตรา 56 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ สำหรับผู้ออกและเสนอขายตราสารหนี้
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นปรับปรุงหลักเกณฑ์การรายงานเหตุการณ์สำคัญของบริษัทที่เสนอขายตราสารหนี้
ก.ล.ต. ยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการออกเสนอขายตราสารหนี้ – โทเคนดิจิทัล เพื่อสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจยั่งยืนและเศรษฐกิจสร้างสรรค์
ก.ล.ต. ออกหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ออกและเสนอขาย Net Capital Bond และปรับปรุงหลักเกณฑ์การแก้ไขวัตถุประสงค์การใช้เงิน