ก.ล.ต. เผยแผนการดำเนินงานปี 2558 ยกระดับตลาดทุนไทย 6 ด้าน เพิ่มความน่าเชื่อถือและมั่นคง ส่งเสริมให้ภาคเศรษฐกิจสามารถใช้ตลาดทุนไทยเป็นแหล่งระดมทุนด้วยต้นทุนที่แข่งขันได้ และเป็นทางเลือกสำคัญในการระดมทุนและการลงทุนในภูมิภาค
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า แผนการดำเนินปี 2558 ของ ก.ล.ต. มีความต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาและรองรับแนวโน้มสภาพแวดล้อมโลกในช่วงทศวรรษต่อไปได้ดียิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของความผันผวนของภาวะเงินทุนเคลื่อนย้าย ทิศทางของกฎเกณฑ์และมาตรฐานสากลใหม่ ๆ? การเชื่อมโยงของเศรษฐกิจและตลาดการเงินที่มาพร้อมการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี เป็นต้น โดยการขับเคลื่อนจะเน้นการพัฒนา 6 ด้าน ได้แก่ (1) ยกระดับมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล (2) เพิ่มประสิทธิภาพการป้องปรามและบังคับใช้กฎหมาย ให้รวดเร็ว มีเครื่องมือการลงโทษที่เหมาะสม รองรับความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี? (3) สร้างสินค้าและบริการทางการเงินให้หลากหลาย ดึงดูดผู้ลงทุนทั่วโลก หนุนให้ตลาดทุนไทยเป็นศูนย์เชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาค (4) เปิดช่องทางให้กิจการทุกประเภททุกขนาดสามารถเข้าถึงทุนในรูปแบบที่เหมาะสม โดยเฉพาะกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) และกิจการเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศ (strategic sectors) (5) สร้างผู้ลงทุนคุณภาพ พัฒนาให้ประชาชนมีความรู้ทางการเงินและใช้ประโยชน์จากตลาดทุนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และ (6) เพิ่มประสิทธิภาพ ก.ล.ต. เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนพร้อมขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาตลาดทุนให้สัมฤทธิผล
นายวรพล กล่าวต่อว่า เพื่อให้ตลาดทุนไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์เชื่อมโยงการระดมทุนในภูมิภาค จะมีการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในตลาดทุน โดยผ่อนคลายเกณฑ์การลงทุนสำหรับผู้ลงทุนที่เป็นรายย่อยและไม่ใช่รายย่อย เช่นการลงทุนในตราสารที่ไม่ได้รับการจัดอันดับ และออกเกณฑ์รองรับการลงทุนและการออกตราสารของกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) เพื่อให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกมากขึ้น รวมถึงการจัดหลักสูตร SEC Thailand Academy เพื่อการพัฒนาศักยภาพของตลาดทุนในภูมิภาค?
สำหรับการเปิดช่องทางให้แก่กิจการต่างๆ ให้มีโอกาสเข้าถึงทุนนั้น จะมีการออกเกณฑ์รองรับช่องทางใหม่ อาทิ การระดมทุนในรูปแบบการเสนอขายหุ้นผ่านระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ (equity crowdfunding) ซึ่งทั้งหมดนี้ จะมีการพัฒนาความรู้ทางการเงินของประชาชนในประเทศไปพร้อมกัน
นายชาลี จันทนยิ่งยง รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในปี 2557 นับว่าประสบความสำเร็จหลายด้าน เช่น ความมั่นคงของตัวกลางและตลาดหลักทรัพย์โดยรวมไม่มีปัญหารองรับความผันผวนได้? การวางรากฐานสู่ความยั่งยืนมีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมทั้งด้านธรรมาภิบาล (CG) ซึ่งตลาดทุนไทยได้รับการประเมินด้วยคะแนนสูงสุดในภูมิภาคอาเซียน และความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) และการต่อต้านการคอร์รัปชัน ซึ่งได้มีการจัดทำดัชนีชี้วัดเพื่อประเมินระดับการพัฒนาด้าน CSR และการป้องกันการมีส่วนเกี่ยวข้องกับคอร์รัปชันสำหรับบริษัทจดทะเบียน โดยในปี 2558 จะยังคงดำเนินการขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และมีเป้าหมายให้เห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวถึงกระบวนการบังคับใช้กฎหมายว่า ก.ล.ต. ให้ความสำคัญในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายมาโดยตลอด และที่ผ่านมาได้ดำเนินการพัฒนาทั้งส่วนที่เป็นกระบวนการทำงาน และการเสนอแก้ไขกฎหมายที่จำเป็น เช่น การผลักดันมาตรการทางแพ่งเพื่อให้สามารถเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป? ทั้งนี้ การแก้ไขกฎหมายดังกล่าวมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายและเสริมสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุนไทย?
นางทิพยสุดา ถาวรามร รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้ตลาดทุนไทยมีศักยภาพในการแข่งขันในเวทีโลก ยังมีงานสำคัญที่ ก.ล.ต. และผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดทุนต้องร่วมมือกันเตรียมความพร้อมอีกหลายเรื่อง เช่น การเข้ากระบวนการประเมินเกี่ยวกับมาตรฐานการกำกับดูแลเทียบกับมาตรฐานสากลขององค์กรกำกับดูแลตลาดทุนนานาชาติ (IOSCO)? การปรับปรุงหลักเกณฑ์กำกับดูแลความมั่นคงของระบบต่างๆ เพื่อรองรับความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้าย?รวมทั้งการพัฒนาการกำกับดูแลเกี่ยวกับการเสนอขายตราสารการเงินที่จะต้องมีความสมดุลให้สามารถเอื้ออำนวยการระดมทุนและการประกอบธุรกิจโดยยังคงมีการให้ความคุ้มครองผู้ลงทุนในระดับที่เหมาะสม และไม่เป็นการปิดกั้นทางเลือกในการลงทุนของผู้ลงทุนโดยไม่สมควร
?