Sign In
ข่าว ก.ล.ต.

ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 3 ราย กรณีซื้อหุ้น CHG โดยอาศัยข้อมูลภายใน และช่วยเหลือการกระทำความผิด



วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566 | ฉบับที่ 210 / 2566


ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับบุคคล 3 ราย ได้แก่ นายแพทย์กำพล พลัสสินทร์ นายกฤษณ์ พลัสสินทร์ และนางสาวกุลภา พลัสสินทร์ กรณีซื้อหุ้นบริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) (CHG) โดยอาศัยข้อมูลภายในที่ตนรู้หรือครอบครอง และช่วยเหลือการกระทำความผิด โดยให้บุคคลทั้ง 3 ราย ชำระเงินรวม 8,070,018 บาท และกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของผู้กระทำผิดดังกล่าว 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตรวจสอบเพิ่มเติม พบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่า บุคลลทั้ง 3 รายตามที่กล่าวข้างต้นกระทำการที่เข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับการซื้อหุ้นโดยอาศัยข้อมูลภายในที่ส่งผลกระทบด้านบวกต่อราคาหุ้นที่ตนรู้หรือครอบครอง ซึ่งเป็นข้อมูลผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2562 ของ CHG ที่มีผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากได้รับเงินค่าบริการทางการแพทย์ตามภาระเสี่ยงจากสำนักงานประกันสังคมเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ CHG ประมาณการไว้ โดยพบว่าภายหลังจากที่นายแพทย์กำพล (กรรมการผู้จัดการและกรรมการของ CHG) ล่วงรู้ภายในดังกล่าวแล้ว ได้ซื้อหุ้น CHG ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายกฤษณ์และนางสาวกุลภา ก่อนที่ CHG จะเปิดเผยข้อมูลภายในดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562

การกระทำของนายแพทย์กำพล กรณีซื้อหุ้น CHG โดยอาศัยข้อมูลภายในดังกล่าว เป็นความผิดตามมาตรา 242(1) ประกอบมาตรา 243(1) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 

ส่วนการกระทำของนายกฤษณ์และนางสาวกุลภาที่ยินยอมให้นายแพทย์กำพลใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์เป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานซื้อหุ้น CHG โดยอาศัยข้อมูลภายในตามมาตรา 242(1) ประกอบมาตรา 315 ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ* กับผู้กระทำความผิดทั้ง 3 ราย ดังกล่าว โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ได้แก่ ค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ ดังนี้

(1) ให้นายแพทย์กำพล ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่พึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 6,873,854 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 14 เดือน

(2) ให้นายกฤษณ์ และนางสาวกุลภา ชำระค่าปรับทางแพ่ง และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้นรายละ 598,082 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลารายละ 9 เดือน

การกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวข้างต้นจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่อัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด

ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง

_________________________

หมายเหตุ : * มาตรา 317/1 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 ให้การกระทำความผิดอาญาตามบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิดได้

อ่านรายละเอียด “การดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่ง (Civil Sanctions)” ได้ที่ https://www.sec.or.th/TH/Pages/LawandRegulations/CivilPenalty.aspx 






ข่าวในหมวดเดียวกัน

ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 14 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น THE
ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 6 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น BM
ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 12 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น SCN
ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 15 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น STAR
ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด กรณีขายหุ้น TRC โดยรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน