Sign In
ข่าว ก.ล.ต.

ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำความผิด 2 ราย ที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์ม CoinEx กรณีประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต



วันศุกร์ที่ 6 กันยายน 2567 | ฉบับที่ 180 / 2567


ก.ล.ต. กล่าวโทษแพลตฟอร์ม CoinEx (CoinEx) และนายพุฒิพงศ์ หนิเจริญ ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในความผิดกรณี CoinEx และนายพุฒิพงศ์ร่วมกันกระทำการอันเข้าข่ายการประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบพบว่า CoinEx ได้ให้บริการจัดระบบการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวกให้เกิดการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเก็บค่าธรรมเนียม และมีการชักชวนและประชาสัมพันธ์ให้มาใช้บริการของ CoinEx ในประเทศไทย ผ่านทางโซเชียลมีเดียเป็นภาษาไทย ได้แก่ Facebook Twitter (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น X) Medium และ Telegram และพบว่า นายพุฒิพงศ์ได้แสดงตนว่าเป็น Partner of CoinEx Thailand โดยเป็นผู้ดูแลบูธ CoinEx ในงาน Thailand Crypto Expo 2022 ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค และขึ้นบรรยายบนเวทีเพื่อชักชวนประชาชนมาใช้บริการของ CoinEx นอกจากนี้ นายพุฒิพงศ์ยังเป็นผู้ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (email) ในฐานะ Partner of CoinEx Thailand เพื่อสอบถาม ก.ล.ต. เกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับ CoinEx รวมทั้งนายพุฒิพงศ์ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลห้องสนทนาใน Telegram ชื่อ “CoinEx Official Thailand เพื่อทําให้การซื้อขาย Crypto ง่ายขึ้น” โดยมีการส่งข้อความในลักษณะประชาสัมพันธ์การส่งเสริมการขายอันทำให้ CoinEx เป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากบุคคลไปใช้บริการมากขึ้น 

การกระทำของ CoinEx และนายพุฒิพงศ์ เข้าข่ายร่วมกันประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ซึ่ง CoinEx ดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนมาตรา 26 อันมีความผิดและระวางโทษตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา 

ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษ CoinEx และนายพุฒิพงศ์ ต่อ บก.ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

อนึ่ง การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรม ตามลำดับ ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่อไป และจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ในกระบวนการภายหลัง ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษแล้ว 

รวมทั้งประสานความร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) พิจารณาดำเนินการปิดกั้นช่องทางการเข้าถึงแพลตฟอร์ม CoinEx ในประเทศไทย ตามกระบวนการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน ทั้งนี้ การปิดกั้นช่องทางการเข้าถึงแพลตฟอร์มผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ ถือเป็นดุลยพินิจของกระทรวง DE และศาล โดยระยะเวลาดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าวอาจแตกต่างกันไปในแต่ละกรณี

พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ขอเตือนประชาชนและผู้ลงทุนให้ระมัดระวังการใช้บริการกับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย และยังมีความเสี่ยงที่จะถูกหลอกลวง (scam) รวมถึงความเสี่ยงด้านการฟอกเงิน โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่ www.sec.or.th และแอปพลิเคชัน SEC Check First และสามารถตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่มิใช่ผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ได้ที่ investor alert ลิงก์ https://market.sec.or.th/public/idisc/th/InvestorAlert

ทั้งนี้ หากมีเบาะแสเกี่ยวกับการดำเนินการที่น่าสงสัย โปรดแจ้งที่ “ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและแจ้งเบาะแส” โทร. 1207 หรือผ่านช่องทาง Facebook page “สำนักงาน กลต.” หรือ Sec Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. เพื่อการตรวจสอบในเชิงลึกต่อไป 








ข่าวในหมวดเดียวกัน

ก.ล.ต. เตรียมปรับปรุงหลักเกณฑ์สนับสนุนให้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) สามารถให้บริการ “Investment token”
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้ Tokenized Carbon Credit และผลิตภัณฑ์อื่นที่สนับสนุนการลดการปล่อยคาร์บอน สามารถซื้อขายผ่านศูนย์ซื้อขาย นายหน้า และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล
ก.ล.ต. ขอให้พนักงานอัยการฟ้องผู้กระทำความผิด 2 ราย ต่อศาลแพ่ง กรณีสร้างราคาหุ้น SCN
ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 2 ราย กรณีเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จหรืออาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดเกี่ยวกับข้อมูลของ JKN
ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 10 ราย กรณีสร้างราคาหรือปริมาณหลักทรัพย์ TCC