นางสุวรรณา เตียรถ์สุวรรณ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ หรือ BEDO และ  นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ เรื่อง ขับเคลื่อนและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน ระหว่างสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยมีนายธวัชชัย พิทยโสภณ รองเลขาธิการ ก.ล.ต. และนายสุวีร์ งานดี รองผู้อำนวยการ BEDO ร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน 

  นางสุวรรณา กล่าวว่า “BEDO เป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ การดำเนินงานของ BEDO มุ่งหวังที่จะส่งเสริม และสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะภาคธุรกิจในตลาดทุนไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภาคส่วนที่มีการดำเนินงานโดยพึ่งพิงความหลากหลายทางชีวภาพทั้งทางตรงและทางอ้อม การร่วมมือกับ ก.ล.ต. ในครั้งนี้จึงถือเป็นการขับเคลื่อนภาคธุรกิจในตลาดทุนไทยให้เห็นถึงความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพและร่วมบูรณาการเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพเข้ากับกลยุทธ์ขององค์กรและการนำไปใช้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกับการเปิดเผยข้อมูลด้านความหลากหลายทางชีวภาพ และส่งเสริมให้มีกลไกทางการเงิน กลไกทางเศรษฐศาสตร์ รวมถึงมาตรการจูงใจเพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพของภาคธุรกิจในตลาดทุนไทยอย่างยั่งยืน”

นางพรอนงค์ กล่าวว่า “ก.ล.ต. กำหนดให้ประเด็นความยั่งยืน ซึ่งครอบคลุมถึงเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นหนึ่งในเป้าหมายและยุทธศาสตร์สำคัญของ ก.ล.ต. โดยมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนตระหนักและเข้าใจถึงความสำคัญของประเด็นนี้ ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ดำเนินโครงการเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพผ่านการจัดอบรม สัมมนา การจัดทำสื่อต่าง ๆ และพัฒนาเครื่องมือเพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายด้านความหลากหลายทางชีวภาพที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการด้านความหลากหลายทางชีวภาพระดับชาติ (NBSAPs) ซึ่งบริษัทจดทะเบียนสามารถมีส่วนร่วมได้ด้วยความสมัครใจ

  ด้วยแนวทางและกรอบการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่สอดคล้องกันระหว่าง BEDO และ ก.ล.ต. ทำให้เกิดความร่วมมือและนำไปสู่การลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเสริมสร้างขีดความสามารถด้านนี้ให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม อันจะสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนให้กับตลาดทุนและประเทศไทยต่อไป”