Sign In
ข่าว ก.ล.ต.

ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้ “โทเคนดิจิทัล” ที่สนับสนุนการลดการปล่อยคาร์บอน ซื้อขายผ่านศูนย์ นายหน้า และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลได้



วันอังคารที่ 2 กันยายน 2568 | ฉบับที่ 224 / 2568


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อเปิดให้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถให้บริการ Tokenized Carbon Credit และ Tokenized Renewable Energy Certificate (REC) และ Tokenized Carbon Allowance* เพื่อเพิ่มช่องทางซื้อขายผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล รวมทั้งส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการซื้อขายคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit)**

ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมเมื่อเดือนมีนาคม 2568 มีมติเห็นชอบหลักการปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อเปิดให้ผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถนำ Tokenized Carbon Credit และผลิตภัณฑ์อื่น ที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ของประเทศไทย มาให้บริการได้ เพื่อเป็นการช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว (Green economy) รวมถึงสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายดังกล่าว โดย ก.ล.ต.  ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการและร่างประกาศที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งผู้ให้ความเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับหลักการและร่างประกาศที่ ก.ล.ต. เสนอ

ก.ล.ต. จึงออกประกาศกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถนำผลิตภัณฑ์ Tokenized Carbon Credit, Tokenized REC และ Tokenized Carbon Allowance มาให้บริการได้ ภายใต้หลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจอื่น*** ซึ่งมีเงื่อนไขเพิ่มเติมในการขออนุญาตประกอบธุรกิจอื่นจาก ก.ล.ต. ดังนี้ 

    (1)  การคัดกรองโทเคนดิจิทัลที่นำมาให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ  

    (2)  การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของโทเคนดิจิทัลอย่างเพียงพอ เพื่อให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกใช้บริการ

   ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจอื่น ตลอดระยะเวลาที่ให้บริการ

การออกประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว ได้ลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 1กันยายน 2568 




หมายเหตุ : ประกาศที่เกี่ยวข้องจำนวน 1 ฉบับ ได้แก่ ร่างประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ. 17/2568 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 29 ) https://publish.sec.or.th/nrs/10831s.pdf
* Tokenized Carbon Credit/REC/Carbon Allowance คือ การแปลง Carbon Credit/REC/Carbon Allowance ให้อยู่ในรูปแบบโทเคนดิจิทัล 

** Carbon Credit หรือคาร์บอนเครดิต คือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้จากการดำเนินกิจกรรมการลดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งได้รับการรับรองและบันทึกในระบบทะเบียนของหน่วยงานเจ้าของมาตรฐานการรับรองคาร์บอนเครดิตRenewable Energy Certificate (REC) หรือใบรับรองการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน คือ ใบรับรองซึ่งแสดงกรรมสิทธิ์ในคุณลักษณะของพลังงานไฟฟ้า (energy attribute) ที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียนประเภทใดประเภทหนึ่ง

Carbon Allowance หรือสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คือ สิทธิที่แสดงถึงปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ได้รับการจัดสรรให้ปล่อยได้ไม่เกินสิทธิตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการลดก๊าซเรือนกระจก

***เนื่องจาก Tokenized Carbon Credit/REC/Carbon Allowance เข้าข่ายเป็น utility token เพื่อการอุปโภคบริโภคหรือใช้แทนใบรับรองสิทธิต่าง ๆ (Consumption-based utility token) ซึ่งมีการยกเว้นไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 เนื่องจากไม่ได้มีลักษณะเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงิน (non-financial product) กรณีผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลนำโทเคนดิจิทัลประเภทดังกล่าวมาให้บริการจึงเข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจอื่นซึ่งต้องขออนุญาตจาก ก.ล.ต. ก่อนเริ่มดำเนินการ 







ข่าวในหมวดเดียวกัน

ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้ DA Custodian มีภาระต้นทุนลดลง ยกระดับระบบนิเวศของโทเคนดิจิทัล
ก.ล.ต. เตือนประชาชนระมัดระวังการกระทำที่อาจเข้าข่ายประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต
ก.ล.ต. ออกหลักเกณฑ์กำหนดมาตรฐานผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในการร่วมรับผิดชอบ เดินหน้าผนึกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกวาดล้างบัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัลต่อเนื่อง
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นปรับปรุงหลักเกณฑ์การรายงานเหตุการณ์สำคัญของบริษัทที่เสนอขายตราสารหนี้
ก.ล.ต. ออกหลักเกณฑ์เกี่ยวกับโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government Token) เพื่อเพิ่มทางเลือกและโอกาสด้านการออมและการลงทุนของประชาชน และส่งเสริมการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน