สำนักงาน ก.ล.ต. ขอเชิญชวนผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน สมาคมหรือชมรมด้านการเงินการลงทุน เข้าร่วมเป็นผู้ให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชน ในโครงการ “ตลาดทุนไทย ร่วมใจส่งพลังความรู้ สู่ประชาชน เฟส 2 ปี 2568” เพื่อร่วมกันผนึกกำลังในการสร้างความรู้ความเข้าใจและทักษะในด้านการเงินการลงทุน (Financial Literacy) ให้แก่ผู้ลงทุนและประชาชน ผ่านการจัดทำแผนการส่งเสริมความรู้ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายให้สามารถบริหารจัดการการเงินของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มโอกาสต่อยอดในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้งอกเงย มีสุขภาพทางการเงินที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต รวมถึงมีความรู้ความเข้าใจสถานการณ์ที่อาจเข้าข่ายถูกหลอกลวงลงทุนและมีภูมิคุ้มกันจากภัยกลโกงรูปแบบต่าง ๆ
รายละเอียด เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ “ตลาดทุนไทย ร่วมใจส่งพลังความรู้ สู่ประชาชน” เฟส 2 ปี 2568 และการได้รับการเชิดชูเกียรติ
|
1. คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
1.1 เป็นผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน (ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือ ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. และไม่มีลักษณะการกระทำความผิดที่ร้ายแรง ในช่วงระยะเวลา 6 เดือน ก่อนวันสิ้นสุดการสมัครเข้าร่วมโครงการ ดังนี้
1.1.1 ไม่ถูกกล่าวโทษโดยสำนักงาน ก.ล.ต.
1.1.2 ไม่ถูกคณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่ง
ข้อ 1.1.1 และ 1.1.2 เฉพาะกรณีความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรม หรือความผิดเกี่ยวกับการบริหารงานโดยทุจริต
1.1.3 ไม่มีผู้บริหารของบริษัทถูกสั่งพัก เพิกถอนการให้ความเห็นชอบ หรือพักการปฏิบัติหน้าที่ อันเนื่องมาจากการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการประกอบธุรกิจ โครงสร้างการบริหารงาน ระบบงาน และการให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
ทั้งนี้ ขอสงวนสิทธิ์ให้การตัดสินของสำนักงานถือเป็นที่สิ้นสุด
1.2 เป็นสมาคม หรือ ชมรมด้านการเงินการลงทุนที่เกี่ยวข้องในด้านการเงินการลงทุน
1.3 เป็น Finfluencer ที่ให้ความรู้ทางการเงิน (รายละเอียดการสมัครสำหรับ Finfluencer เท่านั้น) คลิก
2. การดำเนินการของผู้เข้าร่วมโครงการ
2.1 ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ “ตลาดทุนไทย ร่วมใจส่งพลังความรู้ สู่ประชาชน เฟส 2 ปี 2568” ต้องจัดทำแผนการส่งเสริมความรู้ด้านการเงินการลงทุน (“แผนการส่งเสริมความรู้ฯ”) และกิจกรรมให้ความรู้ที่คัดเลือกเข้าร่วมโครงการ จะต้องไม่เป็นกิจกรรมที่มีวัตถุประสงค์หลักในการขายผลิตภัณฑ์ โดยมีรายละเอียดอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
2.1.1 ชื่อแผนงาน
2.1.2 วัตถุประสงค์ในการให้ความรู้ที่ชัดเจน โดยไม่มีวัตถุประสงค์หลักในการขายผลิตภัณฑ์
2.1.3 กลุ่มเป้าหมายหลักในการให้ความรู้ที่ชัดเจน เช่น กลุ่มเป้าหมายตามช่วงอายุ (วัย), กลุ่มอาชีพ, กลุ่มบุคคลที่มีลักษณะเฉพาะ (โดยหากแผนการให้ความรู้ครอบคลุมหลายกลุ่มเป้าหมาย ก็สามารถระบุได้)
2.1.4 กำหนดหัวข้อ เนื้อหา ด้านการเงินการลงทุนที่ประสงค์จะให้ความรู้ โดยครอบคลุม ความรู้ที่อ้างอิงตามกรอบสมรรถนะหลัก 7 ด้าน1 ในการให้ความรู้แก่ผู้ลงทุน
2.1.5 Key Message หรือใจความสำคัญที่ต้องการส่งสารไปยังกลุ่มเป้าหมายในการสื่อสาร
2.1.6 กำหนดระยะเวลาดำเนินการ
2.1.7 รูปแบบการดำเนินการ หรือ รูปแบบกิจกรรม
2.1.8 กำหนดตัวชี้วัด (KPI) และ วิธีการวัดผลสัมฤทธิ์ (output - outcome)
2.1.9 ผลงานความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม (ถ้ามี) สำหรับผู้ที่ได้เริ่มดำเนินการให้ความรู้ตามแผนการส่งเสริมความรู้ฯ แล้ว
2.2 แผนการส่งเสริมความรู้ฯ ตามข้อ 2.1 สามารถเป็น
2.2.1 แผนที่จะดำเนินการในปี 2568 เป็นต้นไป หรือ
2.2.2 ในกรณีที่เป็นกิจกรรมที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2567 จะต้องเป็นการดำเนินการที่เป็นลักษณะโครงการต่อเนื่อง โดยมีการต่อยอดโครงการเดิม เช่น มีการกำหนด Key message ใหม่ มีกลุ่มเป้าหมายใหม่ หรือมีรูปแบบสื่อใหม่ เป็นต้น
ทั้งนี้ ให้นำส่งแผนการให้ความรู้ด้านการเงินการลงทุนให้แก่สำนักงานภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เพื่อที่สำนักงานจะนำมาพิจารณาเพื่อมอบรางวัลเชิดชูเกียรติแก่ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ
-------------------------------------------
*หมายเหตุ : 1 : IOSCO and OECD (2019), Core Competencies Framework on Financial Literacy for Investors ซึ่งมีเนื้อหาหลักประกอบด้วย 1. หลักการและแนวคิดพื้นฐานการลงทุน (Basic investing principles and concepts) 2.ลักษณะของผลิตภัณฑ์การลงทุน (Investment product attributes) 3. กระบวนการซื้อขายผลิตภัณฑ์การลงทุน (Buying/ selling process of investment products) 4. ข้อมูลพอร์ทการลงทุน (Owning investment holdings) 5. สิทธิและความรับผิดชอบของผู้ลงทุน (Investors’ rights and responsibilities) 6. อคติเชิงพฤติกรรมที่เกี่ยวกับการลงทุน (Behavioral biases related to investing) 7. กลโกงและการถูกหลอกลงทุน (Investment scams and fraud)
-------------------------------------------
3. รูปแบบและเงื่อนไขการเชิดชูเกียรติ
3.1 ผู้เข้าร่วมโครงการที่มีการนำเสนอแผนการส่งเสริมความรู้ฯ ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ตามข้อ 2.1 และเป็นไปตามเงื่อนไขหรือเกณฑ์การพิจารณาจากสำนักงาน จะได้รับ “โล่ตามสาขารางวัล จากสำนักงาน ก.ล.ต.” ที่จัดทำขึ้นเพื่อแสดงว่าเป็นองค์กรที่สร้างคุณค่าในด้านการให้ความรู้แก่สังคมในด้านต่าง ๆ โดยจะมีการกำหนดประเภทสาขารางวัล สำหรับโครงการตลาดทุนไทยฯ เฟส 2 ปี 2568 รวมทั้งสิ้น 5 ประเภทรางวัล ดังต่อไปนี้
สาขารางวัล
| ตัวอย่างเงื่อนไขและรายละเอียด*
|
1. “ขวัญใจมหาชน” (Public Favorite Award) | สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่มีการดำเนินการให้ความรู้ที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมได้ในวงกว้าง และ/หรือ มีจำนวนผู้ที่เข้าถึงความรู้ตามแผนการให้ความรู้จำนวนมาก เช่น มากกว่า 10 ล้านราย (reach) และ/หรือ มีผู้เข้ารับชมมากกว่า 10 ล้านครั้ง (view) ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2568 (รวมทุกช่องทางการเผยแพร่ได้) ในกรณีผู้ประกอบธุรกิจที่ได้ยื่นสาขารางวัลขวัญใจมหาชนในปี 2567 และได้รับรางวัลแล้ว หากประสงค์จะยื่นสาขารางวัลนี้ในปี 2568 ให้เริ่มนับจำนวนผู้เข้าถึงความรู้ตั้งแต่ 1 ก.ย. 67 ในกรณีผู้ประกอบธุรกิจที่ยังไม่เคยยื่นสาขารางวัลขวัญใจมหาชนในปี 2567 ให้เริ่มนับจำนวนผู้เข้าถึงความรู้ได้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 67
|
2. “การสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืน” (Sustainability Award)
| สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่มีแผนการส่งเสริมความรู้ฯ ที่แสดงได้ว่ามีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน สามารถส่งต่อความรู้ต่อกลุ่มเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีการทำกิจกรรมที่สามารถวัด output และ outcome ได้อย่างเป็นรูปธรรม มีระยะเวลาโครงการกิจกรรมตามแผนตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป เช่น การให้ความรู้กับกลุ่มนักศึกษา กลุ่มสาขาอาชีพต่าง ๆ (นักกีฬา ทหาร ตำรวจ ฯลฯ) ที่มีการติดตามผลงาน หรือการสร้างเครือข่ายให้ความรู้ที่สามารถส่งต่อความรู้ต่อไปได้ในระดับชุมชน สถานศึกษา องค์กร หรือภูมิภาค ในกรณีผู้ประกอบธุรกิจที่ได้ยื่นสาขารางวัลการสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืนในปี 2567 และได้รับรางวัลแล้ว หากประสงค์จะยื่นโครงการเดิมสำหรับสาขารางวัลนี้ในปี 2568 ต้องแสดงให้เห็นข้อมูลการต่อยอดจากโครงการเดิม เช่น key message ใหม่ กลุ่มเป้าหมายใหม่ เป็นต้น
|
3. “ความคิดสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม” (Creativity Awards) | สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่มีแผนการส่งเสริมความรู้ฯ ที่แสดงให้เห็นได้ว่ามีความโดดเด่นในด้านความคิดสร้างสรรค์ มีการให้ความรู้การเงินการลงทุนที่สามารถทำให้คนจดจำได้ง่าย อาจนำไปสู่การช่วยให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้ และ/หรือ มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมาประกอบการให้ความรู้ได้อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งสามารถนำไปปฏิบัติให้เกิดผลต่อกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเป็นรูปธรรม
|
4. รางวัล “ผู้สร้างพลังความรู้ทางการเงินและการลงทุน” (The Financial Empowerment Award)
| สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่สะสมรางวัลครบทั้ง 3 ประเภท (รางวัลขวัญใจมหาชน, รางวัลการสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืน และรางวัลความคิดสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม) ในช่วงปี 2567-2570 สำนักงานจะพิจารณาจากฐานข้อมูลของสำนักงาน และจะแจ้งการมอบรางวัลให้แก่ ผู้ประกอบธุรกิจที่มีคุณสมบัติเป็นตามเงื่อนไขทราบต่อไป |
*เงื่อนไขและรายละเอียดอาจปรับปรุงได้ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์และความจำเป็น
ผู้เข้าร่วมโครงการต้องระบุประเภทของสาขารางวัลที่ประสงค์จะได้รับ (1 แผนการส่งเสริมความรู้ฯ ต่อรางวัล 1 ประเภท) เพื่อให้สำนักงานพิจารณา ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2568
3.2 ผู้เข้าร่วมโครงการที่ได้รับโล่รางวัล จะได้รับตราสัญลักษณ์พิเศษ ที่สามารถนำไปใช้ในการประชาสัมพันธ์การเข้าร่วมเป็นพลังของตลาดทุนไทยในการขับเคลื่อนในด้านการให้ความรู้ โดยอาจใช้ในการจัดกิจกรรมการให้ความรู้ หรือในเอกสารประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถติดตามผลการดำเนินโครงการได้ ผู้ได้รับมอบโล่ และตราสัญลักษณ์พิเศษ จะต้องดำเนินการ ดังนี้
(1) ปฏิบัติตามแผนการส่งเสริมความรู้ฯ ที่นำเสนอต่อสำนักงาน ตามข้อ 2
(2) รายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนส่งเสริมความรู้ฯ และ/หรือผลสัมฤทธิ์ของแผนการส่งเสริมความรู้ฯ ให้สำนักงานทราบ ณ สิ้นสุดไตรมาสที่ 4 ของปี 2568- 2570 หรือตามระยะเวลาดำเนินการของแผนการส่งเสริมความรู้ฯ
ทั้งนี้ หากผู้เข้าร่วมโครงการไม่ได้ดำเนินการตามเงื่อนไขข้างต้น โดยปราศจากเหตุอันควรหรือเหตุสุดวิสัย อาจมีการพิจารณาเรียกคืนตราสัญลักษณ์พิเศษ
4. FAQs
4.1 การให้ความรู้ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้ความรู้นอกเหนือจากการให้ข้อมูลเพื่อเสนอขายผลิตภัณฑ์หรือบริการตามปกติขององค์กรพิจารณาจากอะไร?
ตอบ การให้ความรู้ตามแผนการส่งเสริมความรู้ ให้บริษัทเป็นผู้คัดเลือกและยืนยันแผนการให้ความรู้ หรือกิจกรรมความรู้ที่เข้าร่วมโครงการ ว่ากิจกรรมให้ความรู้ที่คัดเลือกเข้าร่วมโครงการ จะต้องไม่เป็นกิจกรรมที่มีวัตถุประสงค์หลักในการขายผลิตภัณฑ์ แนวทางการพิจารณา เช่น สามารถเป็นการดำเนินการในลักษณะที่ควบคู่ไปกับการเผยแพร่ภาพลักษณ์องค์กร หรือการแนะนำช่องทางการให้บริการของบริษัทที่ผู้ลงทุนสามารถใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจเลือกใช้บริการได้ เช่น tie in ช่องทางการติดต่อบริษัทในรายการ หรือ application ในการลงทุนของบริษัทไม่บังคับให้เปิดบัญชีหรือต้องเป็นลูกค้าของบริษัทก่อนจึงจะใช้ application ได้
4.2 การให้ความรู้ประเภทใด? ที่ไม่รวมอยู่ในเงื่อนไขของโครงการ
ตอบ
ตัวอย่างกิจกรรม
| เข้าเงื่อนไข
(ü)
| ยังไม่เข้าเงื่อนไข (X)
|
จัดสัมมนา/อบรม/workshop ให้ความรู้แก่ด้านการเงินการลงทุน โดยมีเนื้อหาเป็นไปตามกรอบที่กำหนด
| - มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าร่วมรับฟังได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย - จัดให้กลุ่มเป้าหมาย เช่น นักศึกษา พนักงาน คนใกล้เกษียณ ในเนื้อหาที่เหมาะสมกับความสนใจ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
| - สัมมนาแนะนำกลยุทธ์การลงทุน/ผลิตภัณฑ์ใหม่ ให้เฉพาะลูกค้าของบริษัท เพื่อเป็นประโยชน์ในการขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ - มีการเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้ แต่มีการเก็บค่าใช้จ่าย หรือมีเงื่อนไขในเชิงพาณิชย์ - การสอนการใช้งานโปรแกรมซื้อขายหลักทรัพย์ หรือวิธีใช้เครื่องมือวิเคราะห์การลงทุน - การแนะนำกองทุนให้แก่สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
|
การจัดทำสื่อความรู้/บทความ/ Infographic ที่มีความต่อเนื่อง โดยมีเนื้อหาเป็นไปตามกรอบที่กำหนด
| - เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของบริษัท และมีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางอื่น ๆ แบบสาธารณะ (Public) ด้วย เพื่อให้เนื้อหาเข้าถึงผู้อ่านมากขึ้น - เผยแพร่บน Social Media ที่เปิดกว้าง เช่น Facebook LINE TikTok Instagram Blockdit เป็นต้น
| - เผยแพร่ข้อมูลลงในกลุ่มปิดหรือเฉพาะกลุ่มลูกค้าบริษัทเท่านั้น
|
4.3 ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้เข้าร่วมโครงการในปี 2567 แล้วและได้รับโล่รางวัลแล้ว สามารถยื่นเข้าร่วมโครงการในปี 2568 ได้อีกหรือไม่?
ตอบ ผู้ประกอบธุรกิจสามารถยื่นเข้าร่วมโครงการได้ทุกปี โดยหากมีความสนใจสามารถเลือกเข้าร่วมโครงการตามสาขารางวัลที่ต่างกัน เพื่อให้ได้รับครบทุกสาขารางวัลได้
4.4 ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้เข้าร่วมโครงการในปี 2567 แล้วและได้รับโล่รางวัลทั้ง 3 ประเภทแล้ว จะสามารถได้รับโล่รางวัลประเภท “ผู้สร้างพลังความรู้ทางการเงินและการลงทุน” (The Financial Empowerment Award) เลยหรือไม่?
ตอบ ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้เข้าร่วมโครงการในปี 2567 แล้วและได้รับโล่รางวัลทั้ง 3 ประเภทแล้ว จะถือว่าเป็นผู้ที่ได้รางวัล “ผู้สร้างพลังความรู้ทางการเงินและการลงทุน” (The Financial Empowerment Award) ในปี 2568 ซึ่งจะเป็นการได้รับรางวัลสูงสุดของโครงการ (ได้รับเพียงครั้งเดียว) แต่ยังสามารถขอรับรางวัลประเภท 1-3 ได้ทุกปี ตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการ
สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่ยังได้รับโล่รางวัลไม่ครบทั้ง 3 ประเภท สามารถสะสมโล่รางวัลให้ครบทั้ง 3 ประเภทเพื่อได้รับรางวัลสูงสุดของโครงการนี้ได้
ผู้ประกอบธุรกิจที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ สามารถดำเนินการได้ดังนี้
1. กรอกข้อมูลในแบบแสดงความจำนงการเข้าร่วมโครงการฯ เฟส 2 ปี 2568 แล้วนำส่งแบบแสดงความจำนงฯ ส่งกลับมาทางอีเมล smarttoinvest@sec.or.th ภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568
(ดาวน์โหลดแบบแสดงความจำนงฯ คลิก)
2. นำส่งไฟล์แผนการส่งเสริมความรู้ด้านการเงินการลงทุนสำหรับโครงการ เฟส 2 ปี 2568 ทางแบบฟอร์มออนไลน์ ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2568
(แบบฟอร์มออนไลน์นำส่งแผนการส่งเสริมความรู้ฯ คลิก)
การเชิดชูเกียรติภายใต้โครงการตลาดทุนไทยฯ เป็นรางวัลที่สำนักงาน ก.ล.ต. มอบให้ในฐานะของผู้ส่งเสริมความรู้โดยพิจารณาจากแผนงานการให้ความรู้ความรู้แก่ประชาชน สำนักงาน ก.ล.ต.จึงไม่ได้รับรองคุณสมบัติด้านการประกอบธุรกิจของผู้ที่ได้รับรางวัลการเชิดชูเกียรติ
ข้อมูลการเข้าถึงความรู้ของ ก.ล.ต. และผู้ประกอบธุรกิจโครงการตลาดทุนไทยฯ คลิก
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอเชิญชวน Finfluencer เข้าร่วมโครงการ “ตลาดทุนไทย ร่วมใจส่งพลังความรู้ สู่ประชาชน" เฟส 2 ปี 2568 ในสาขา “ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงทางการเงินสู่ประชาชน" (The Financial Changemaker Award) เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพลังในการส่งต่อความรู้ทางการเงินการลงทุนให้แก่ประชาชน
Finfluencer ที่สนใจเข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1) เป็น Influencer ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเงินการลงทุน (Finfluencer) ที่มีกลุ่มผู้ชมหรือคนติดตามในช่องทางออนไลน์ในการดำเนินการให้ความรู้ด้านการเงินการลงทุนแก่ประชาชน
2) มีผู้ติดตามผ่านช่องทางออนไลน์ตั้งแต่ 100,000 บัญชีผู้ใช้ขึ้นไป (รวมทุกช่องทาง)
โดยเงื่อนไขในการได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติสาขา “ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงทางการเงินสู่ประชาชน" (The Financial Changemaker Award) ประกอบด้วย
(1) จัดทำสื่อความรู้ตามกรอบด้านการเงินการลงทุนที่มีเนื้อหาเป็นไปตามกรอบสมรรถนะหลัก 7 ด้าน1 ในการให้ความรู้แก่ผู้ลงทุน โดยเป็นความรู้ด้านการเงินการลงทุนที่ไม่เป็นการขาย หรือโฆษณา “ผลิตภัณฑ์หรือบริการด้านการเงินการลงทุน" จำนวนไม่น้อยกว่า 10 ชิ้นงาน (ไม่จำกัดรูปแบบ) โดยสื่อดังกล่าวต้องมีจำนวนผู้เข้าถึง (reach) หรือยอดรับชม (views) สะสม ไม่น้อยกว่า 1,000,000 ครั้ง ในช่วงเดือนมกราคม 2568 จนถึง 15 สิงหาคม 2568 และ
(2) ต้องเป็นผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรของ “โครงการ Responsible Voices สำหรับ Finfluencer" ก่อนวันประกาศผลการเชิดชูเกียรติในเดือนตุลาคม 2568 ซึ่งสำนักงานจะประกาศให้ทราบต่อไป (สามารถศึกษารายละเอียดของหลักสูตรโครงการ Responsible Voices สำหรับ Finfluencer ได้ที่ Thai responsiblevoices
ทั้งนี้ Finfluencer ที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ข้างต้น แต่ยังไม่ได้ผ่านการอบรมหลักสูตรการของโครงการ Responsible Voices สำหรับ Finfluencer สามารถสมัครและนำส่งผลงานสื่อความรู้ต่อ ก.ล.ต. ได้ตลอดระยะเวลาโครงการ จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เพื่อให้ ก.ล.ต. พิจารณา โดยส่งมาที่ email start-to-invest@sec.or.th และ CC suttikun@sec.or.th rattiyaporn@sec.or.th โดยสามารถแจ้งผลการผ่านหลักสูตรการอบรมโครงการ Responsible Voices สำหรับ Finfluencer ได้ในภายหลัง
-------------------------------------------
*หมายเหตุ : 1 IOSCO and OECD (2019), Core Competencies Framework on Financial Literacy for Investors ซึ่งมีเนื้อหาหลักประกอบด้วย 1. หลักการและแนวคิดพื้นฐานการลงทุน (Basic investing principles and concepts) 2. ลักษณะของผลิตภัณฑ์การลงทุน (Investment product attributes) 3. กระบวนการซื้อขายผลิตภัณฑ์การลงทุน (Buying/selling process of investment products) 4. ข้อมูลพอร์ทการลงทุน (Owning investment holdings) 5. สิทธิและความรับผิดชอบของผู้ลงทุน (Investors' rights and responsibilities) 6. อคติเชิงพฤติกรรมที่เกี่ยวกับการลงทุน (Behavioral biases related to investing) 7. กลโกงและการถูกหลอกลงทุน (Investment scams and fraud)
-------------------------------------------
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: ฝ่ายพัฒนาและส่งเสริมความรู้ตลาดทุน สำนักงาน ก.ล.ต.
คุณ สุทธิกัญญา กาญจนสกุล อีเมล: suttikun@sec.or.th